อีกพื้นที่ที่สุ่มเสี่ยงจะปะทุกลายเป็นความตึงเครียดครั้งใหม่คือพรมแดนระหว่างฟินแลนด์และรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่สงครามยูเครนยังคงดำเนินอยู่ เพราะในทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่นี่ถือเป็นรอยต่อระหว่างชาติสมาชิกสหภาพยุโรปและนาโตกับดินแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย

ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาณความตึงเครียดบริเวณพรมแดนระหว่างฟินแลนด์และรัสเซียไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังฟินแลนด์กล่าวหารัสเซียว่ามีส่วนหนุนให้ผู้ลี้ภัยแบบผิดกฎหมายหลายร้อยคนเดินทางข้ามมายังพรมแดนฟินแลนด์

รัสเซียติดตั้งขีปนาวุธพร้อมเครื่องร่อนติดอาวุธนิวเคลียร์

ยูเครนยึดบางพื้นที่ฝั่งตะวันออกแม่น้ำดนีโปรคืนจากรัสเซีย

รัสเซียรุกหนักแนวรบบัคมุต-อัฟดิฟกาในยูเครน

จนฟินแลนด์ต้องประกาศปิดจุดผ่านแดนที่เชื่อมรัสเซีย 4 จุดจากทั้งหมด 8 จุดเพื่อสกัดคลื่นผู้อพยพ ล่าสุดเมื่อวานนี้ (22 พ.ย.) นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์ได้ออกมาประกาศปิดจุดผ่านแดนฟินแลนด์-รัสเซียเพิ่มเติม จนเหลือเพียงแค่ 1 จุดเท่านั้นที่ยังเปิดอยู่

เมื่อวานนี้ ในระหว่างการแถลงข่าว เพตเทอรี ออร์โป นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์ได้ออกมากล่าวเกี่ยวกับสถานการณ์คลื่นผู้อพยพแบบผิดกฎหมายที่เดินทางเข้ามาจากทางพรมแดนรัสเซียอย่างต่อเนื่องตลอดเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์ระบุว่า รัฐบาลฟินแลนด์ได้ตัดสินใจปิดจุดผ่านแดนที่เชื่อมระหว่างทางตะวันออกของฟินแลนด์และทางตะวันตกรัสเซียเพิ่ม

โดยจะเหลือเพียงแค่จุดผ่านแดนจุดเดียวที่เปิดอยู่จากทั้งหมด 8 จุดตลอดพรมแดน นั่นคือจุดผ่านแดน “รายา-ยูเซปปี” (Raja-Jooseppi) ทางเหนือสุดของฟินแลนด์ และจะเริ่มปิดตั้งแต่วันศุกร์ เวลา 00.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นเป็นต้นไป

ก่อนหน้ารัฐบาลฟินแลนด์จะออกมาประกาศปิดจุดผ่านแดนจนเหลือเพียงแค่ 1 จุด เมื่อวันที่ 16 พ.ย. หรือวันพฤหัสที่แล้ว ทางการฟินแลนด์ก็ได้ออกมาประกาศปิดจุดผ่านแดนที่เชื่อมระหว่างฟินแลนด์และรัสเซียไปแล้ว 4 จุดจากทั้งหมด 8 จุด ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฟินแลนด์

 ฟินแลนด์ปิดจุดผ่านแดนเชื่อมรัสเซียเหลือเพียง 1 จุด

ฟินแลนด์กล่าวหารัสเซีย หนุนผู้อพยพเดินทางเข้าฟินแลนด์

เกิดอะไรขึ้นที่พรมแดนระหว่างฟินแลนด์และรัสเซีย ฟินแลนด์เป็นประเทศที่มีพรมแดนทางทิศตะวันออกติดกับรัสเซียราว 1,350 กิโลเมตร ถือเป็นชาติที่มีพรมแดนติดกับรัสเซียยาวที่สุดในบรรดาชาติยุโรป ระหว่างพรมแดนของทั้งสองประเทศ จะมีจุดผ่านแดนอยู่ทั้งหมด 8 จุด

ตามปกติ การข้ามแดนจากรัสเซียเข้าสู่พรมแดนของสหภาพยุโรปผ่านฟินแลนด์มักเกิดขึ้นค่อนข้างน้อย จนกระทั่งช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยรักษาชายแดนของฟินแลนด์เปิดเผยว่า มีผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารผ่านเข้าพรมแดนสหภาพยุโรปเดินทางเข้ามายังพรมแดนฟินแลนด์มากผิดปกติ

ตลอดเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา มีผู้ลี้ภัยที่ไม่มีเอกสารเดินทางเข้าสู่ฟินแลนด์ผ่านทางรัสเซียรวมมากกว่า 600 คนแล้ว ส่วนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมามีผู้ลี้ภัยข้ามพรมแดนมายังฟินแลนด์แล้ว 62 คน ขณะที่ตามปกติจะมีผู้ลี้ภัยข้ามพรมแดนบริเวณนี้เดือนละไม่เกิน 10 คนเท่านั้น

ส่วนมากการข้ามแดนจะเกิดขึ้นบริเวณจุดผ่านแดนนูอิยามา (Nuijamaa) และวาลิมา (Vaalimaa) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฟินแลนด์ โดยที่ผู้อพยพมักเดินทางเป็นกลุ่มเล็กๆ ราว 7-11 คนจากรัสเซียมายังบริเวณชายแดนด้วยรถยนต์ จากนั้นค่อยใช้จักรยานขี่ข้ามพรมแดนไปยังฟินแลนด์ โดยที่ผู้อพยพส่วนมากมักจากรัสเซียมายังบริเวณชายแดนด้วยรถยนต์จากนั้นค่อยใช้จักรยานขี่ข้ามพรมแดนไปยังฟินแลนด์

แมตติ พิตคันนิตี เจ้าหน้าที่หน่วยรักษาชายแดนระบุต่อสำนักข่าว BBC ว่า ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ส่วนมากมาจากประเทศต่างๆ เช่น อิรัก เยเมน เยเมน อัฟกานิสถาน เคนยา โมร็อกโก ปากีสถาน โซมาเลีย และซีเรีย โดยเดินทางมาถึงรัสเซียอย่างถูกกฎหมาย ก่อนที่จะเข้ามายังพรมแดนฟินแลนด์โดยไม่มีเอกสาร

เซาลี นีนิสโต ประธานาธิบดีฟินแลนด์บุว่า ตามปกติหากผู้อพยพไม่มีเอกสารเข้าพรมแดนสหภาพยุโรปอย่างถูกต้องหรือไม่มีวีซาสหภาพยุโรป เจ้าหน้าที่ชายแดนรัสเซียจะปฏิเสธไม่ยอมให้ข้ามพรมแดนไปยังฟินแลนด์คำพูดจาก เครื่องสล็อต

แต่เนื่องจากจำนวนผู้อพยพเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนี้ ทางการฟินแลนด์จึงเชื่อว่าเป็นฝีมือของรัสเซีย และตัดสินใจปิดจุดผ่านแดน 4 จุดทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ตามมาด้วยการประกาศปิดจุดผ่านแดนเกือบทุกจุดเมื่อวานนี้ หลังผู้ลี้ภัยยังคงหลั่งไหลไปยังจุดข้ามแดนอื่นๆ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฟินแลนด์

ขณะที่มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกประจำกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกมาปฏิเสธว่า รัสเซียไม่ได้มีส่วนในการหนุนให้ผู้ลี้ภัยเดินทางเข้าพรมแดนฟินแลนด์

นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์ก็ได้ออกมาย้ำอีกครั้งว่า รัสเซียกำลังใช้ประโยชน์จากคลื่นผู้อพยพเพื่อบั่นทอนความมั่นคงชายแดนของฟินแลนด์และสหภาพยุโรป

คำถามคือ หากเป็นฝีมือของรัสเซียจริง สิ่งใดคือแรงจูงใจด้านประธานาธิบดีฟินแลนด์เคยระบุไว้เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ว่า นี่อาจเป็นการแก้แค้นที่ฟินแลนด์เตรียมลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านความมั่นคงหรือ Defense Cooperation Agreement (DCA) ร่วมกับสหรัฐฯ

ขณะที่หลังฟินแลนด์เข้าเป็นสมาชิกนาโตอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ความตึงเครียดระหว่างฟินแลนด์และรัสเซียก็ปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆโดยก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีฟินแลนด์เคยกล่าวไว้ว่า ฟินแลนด์ต้องเตรียมพร้อมรับมือภัยจากรัสเซียหลังเข้าร่วมนาโต

เอสโตเนียกล่าวหารัสเซียจงใจส่งผู้อพยพเข้าพรมแดนเอสโตเนีย

ขณะเดียวกัน นอกจากฟินแลนด์แล้วอีกประเทศหนึ่งที่กำลังเผชิญกับคลื่นผู้อพยพเช่นเดียวกันคือ เอสโตเนีย เมื่อวานนี้สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานข้อมูลจากสถานีโทรทัศน์สาธารณะของเอสโตเนียหรือERR ว่า นับตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มีผู้ลี้ภัยจากโซมาเลียและซีเรียราว 75 คนพยายามเดินทางเข้าสู่พรมแดนเอสโตเนียจากทางชายแดนรัสเซีย

โดยใช้จุดผ่านแดน “นาร์วา” ที่เชื่อมระหว่างทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเอสโตเนียและทางตะวันตกของรัสเซีย และเดินทางเข้ามาเป็นกลุ่มเล็กๆ กลุ่มละ 7-11 คน

ลอรี เลอาเนเมตส์ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเอสโตเนียออกมาระบุผ่านสำนักข่าวรอยเตอร์ส โดยกล่าวหารัสเซียไปในทิศทางเดียวกันกับฟินแลนด์ว่า รัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องในปฏิบัติการโจมตีแบบลูกผสม หรือ hybrid attack operation

ในการหนุนให้ผู้ลี้ภัยเดินทางเข้าพรมแดนบอลติดเพื่อสั่นคลอนความมั่นคงชายแดน รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเอสโตเนียยังกล่าวเพิ่มเติมว่าเอสโตเนียเตรียมการที่จะปิดจุดผ่านแดนเช่นกัน หากยังคงมีผู้อพยพพยายามเข้าสู่พรมแดนเอสโตเนียผ่านทางรัสเซียเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี ล่าสุดกระทรวงมหาดไทยเอสโตเนียระบุว่าไม่มีผู้อพยพคนไหนยื่นเอกสารขอลี้ภัย และขณะนี้ทุกคนก็ถูกส่งตัวกลับแล้ว ทั้งนี้ ทางการรัสเซียยังไม่ออกมาแสดงความเห็นต่อกรณีเอสโตเนียแต่อย่างใด

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้ลี้ภัยที่ไม่มีเอกสารจำนวนมากพยายามเดินทางเข้าพรมแดนสหภาพยุโรปอย่างผิดปกติ ย้อนกลับไปเมื่อช่วงฤดูหนาวปี 2021 มีผู้ลี้ภัยราว 3,000-4,000 คนจากหลายประเทศในตะวันออกกลางและแอฟริกาติดอยู่บริเวณชายแดนระหว่างเบลารุส พันธมิตรสำคัญของรัสเซียและโปแลนด์ รวมถึงระหว่างพรมแดนเบลารุส ลิทัวเนีย และลัตเวีย

ในครั้งนั้น สหภาพยุโรปกล่าวหาอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ผู้นำเบลารุสว่าจงใจล่อลวงผู้อพยพและผู้ลี้ภัยให้เดินทางไปยังเบลารุสเพื่อให้ใช้เบลารุสเป็นทางผ่านไปสู่พรมแดนสหภาพยุโรปต่อ และใช้ผู้ลี้ภัยเป็นอาวุธในการทำ “สงครามลูกผสม” หรือ hybrid warfare เพื่อสั่นคลอนความมั่นคงชายแดนของสหภาพยุโรป

ขณะที่โปแลนด์ออกมากล่าวหาว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ปูตินแห่งรัสเซียเป็นผู้บงการวิกฤตผู้ลี้ภัยครั้งนั้น

เตรียมพร้อม! เปิดรับแรงงานภาคเกษตร สนใจทำงานเกาหลีไม่ต้องสอบวัดระดับภาษา

หลุดเองตั๋วเพื่อไทย เศรษฐา เปิดประเด็น สส.ฝาก ตำแหน่งผู้กำกับใหม่

ปิดฉาก 59 ปี “โรงงานเหล็กกรุงเทพฯ” ขาดทุนทุกปีสูงสุดหลักพันล้าน

By admin